วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

สวัสดีดีนะ

วันนี้เราได้สถานที่ที่น่าสนใจมาฝาก

(เผอิญว่าไปคัดลอกจากเว็บอื่นมาอีกที 555+)

เป็นสถานที่ทสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในมาฝากกัน



   รู้จักออสเตรเลีย




   ออสเตรเลียมีชื่อประเทศอย่างเป็นทางการว่า "เครือรัฐออสเตรเลีย"
(Commonwealth Australia) ออสเตรเลียเคยเป็นประเทศอาณานิคม
ของอังกฤษมาก่อน ปัจจุบันออสเตรเลียเป็นประเทศในจักรภพ ที่ตั้ง
ประเทศอยู่บนเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในขณะเดียวกันออสเตรเลีย
ก็เป็นทวีปทีเล็กที่สุดในโลกด้วยออสเตรเลียเป็นประเทศ"ใหม่"แม้จะ
มีประวัติความเป็นมาในการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่ไม่ยาวนาน ไม่มี
ร่องรอยอารยธรรมโบราณที่เป็นรากเหง้าของอารยธรรมโลก แต่
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง มีธรรมชาติสวยงาม
หลากหลาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าไปเยือน มีเสน่ห์อย่างยิ่งด้วยความ
มีน้ำใจและความเป็นกันเองของคนออสเตรเลียกับความสวยบริสุทธิ์ของ
ธรรมชาติ

ภูมิอากาศและที่ตั้ง
     ออสเตรเลียตั้งอยู่ในซีกโลกใต้ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย
ลักษณะประเทศเป็นเกาะ ออสเตรเลีย เป็นทวีปที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก แต่เป็น
เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรอินเดีย  และมหาสมุทรแปซิฟิก
เป็นประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ มีสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2
แห่งราชอาณาจักรอังกฤษเป็นประมุข

     พื้นที่ของเกาะมีประมาณ 7.6 ล้านตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งทะเลที่งดงาม
ชายหาดขาวสะอาด มีป่าดงดิบและป่าชื้นเขตร้อนที่ยังคงความสมบูรณ์ และเป็น
ธรรมชาติที่สุดแห่งหนึ่ง พื้นที่ของประเทศมีทั้งแห้งแล้งและอุดมสมบูรณ์ ประมาณ
หนึ่งในสามเป็นทะเลทราย แต่พื้นที่แถบชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐ
ออสเตรเลียตะวันตก และรัฐทัสเมเนียมีความอุดมสมบูรณ์มาก ฝนตกชุกที่นี่
มีตว์และพืชรวมทั้งดอกไม้ป่าหลายชนิดที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในดินแดนอื่น
เช่น จิงโจ้ โคอะล่า วอมแบต ดิงโก้ พอสซั่ม ตุ่นปากเป็ด และตัวกินมด



ประชากร
ปัจจุบันออสเตรเลียมีประชากร 19 ล้านคน อาศัยอยู่หนาแน่นแถบชายฝั่งตะวัน
ออกของประเทศ ประกอบด้วยคนจากหลากหลายเชื้อชาติวัฒนธรรมกว่า 140
ประเทศที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานตลอด 50 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ออสเตรเลียเป็น
หนึ่งในประเทศที่มีสังคมแบบสหวัฒนธรรม
 
สภาพภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศของออสเตรเลียแตกต่างกันในแต่ละรัฐ สภาพอากาศทั่วไป
จะเป็นแบบเขตร้อนจนถึงเขตอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ทัสมาเนียประมาณ
0-12 องศาเซลเซียส และร้อนสุดที่มณฑลตอนเหนือประมาณ 33-34
องศาเซลเซียส

*ฤดูใบไม้ผลิ กันยายน-พฤศจิกายน อากาศดี ดอกไม้บานสวยงาม
*ฤดูร้อน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ อากาศร้อนและแห้งแล้ง บางแห่งร้อนจัดและ
 อาจมีไฟป่า

*ฤดูใบไม้ร่วง มีนาคม-พฤษภาคม อากาศเริ่มเย็นลง ตามเมืองชายฝั่งทาง
 ตอนใต้และเมืองในเขตป่า ฝนจะตกชุก บางแห่งอาจมีน้ำท่วม

*
ฤดูหนาว มิถุนายน-สิงหาคม อากาศเย็นจัดมีหิมะตกบนเขตภูเขาสูงโดยทั่วไป
*เวลา ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้าง จึงมีความแตกต่าง
ของเวลาตามมาตรฐานกรีนิช  (Greenwich Mean  Time, GMT) โดยจัดแบ่ง
ออกเป็น 3 โซน ดังนี้

Eastern Standard Time-EST เร็วกว่าเวลา GMT 10 ชั่วโมงและเร็วกว่า
ประเทศไทย    3 ชั่วโมง ใช้ในรัฐ New South Wales, Victoria, Tasmania,
Queensland และ Canberra

Central Standard Time-CST
เร็วกว่าเวลา GMT 9.5 ชั่วโมงและเร็วกว่า
ประเทศไทย 2 ชั่วโมงครึ่ง ใช้ในรัฐ South Australia และเขตปกครอง
Northern Territory

Western Standard Time-WST
เร็วกว่าเวลา GMT 8 ชั่งโมงและเร็วกว่า
ประเทศไทย 1 ชั่วโมง ใช้ในรัฐ Western Australia
Daylight Saving - ในช่วงฤดูร้อน ประเทศออสเตรเลียจะมีเวลาในช่วง
กลางวันยาวนานกว่าในช่วงกลางคืน   ดังนั้น ในรัฐ Victoria,
New South Wales, South Australia และ Tasmania จึงมีการปรับเวลาให้
เร็วขึ้นจากเดิมอีก 1 ชั่วโมง ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงมีนาคม
การขอวีซ่าประเทศออสเตรเลียเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้
 1. หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน (กรุณาครวจสอบวันหมดอายุ)
 2. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง 1 หรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
 3. หลักฐานการ สมุดบัญชีเงินฝากตัวจริง และสำเนาย้อนหลัง 6 เดือน หรือ
     หนังสือรับรองการเงินจากธนาคาiพร้อมสำเนาเงินฝากประทับตรารับรอง
     จากธนาคาร
 4. หลักฐานการทำงาน หนังสือรับรองจากบริษัท ฯ หรือใบทะเบียนการค้า
     และหนังสือรับรองการจดทะเบียน   (กรณีเป็นเจ้าของธุรกิจ)
 5. กรณีเป็นนักศึกษา ใช้สำเนาบัตรนักศึกษาและหนังสือรับรองจากโรงเรียน
     (ทั้ง 2 อย่าง)
 6. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบสูติบัตร สำเนาใบ
     เปลี่ยนชื่อ  (ถ้ามี)
  7.สำเนาทะเบียนสมรส ใบหย่า หรือ ใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
     กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี  ไม่ได้เดินทางพร้อมบิดามารดา หรือคนใด
     คนหนึ่ง ต้องทำหนังสือยินยอมห้เดินทางไปต่างประเทศ โดยขอทำหนังสือ
     ยินยอมจาก อำเภอหรือเขตที่ท่านอยู่เท่านั้น พร้อมสำเนาบัตรประชาชน
     และสำเนา ทะเบียนบ้านของบิดามารดา
 8. กรณีเป็นผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป จะต้องมีใบรับรองแพทย์ (ต้องใช้แบบฟอร์ม
     ทางสถานฑูตเท่านั้น) ออกโดยโรงพยาบาลที่ทางสถานฑูตกำหนด และ
     ใบประกันสุขภาพ (ค่าใช้จ่ายในการทำประกันสุขภาพการเดินทางสำหรับ
     ผู้สูงอายุไม่ได้รวมอยู่ในค่าบริการ)
 ** รายละเอียดเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงข้อเบื้องต้นที่
      ทางบริษัท ฯ ได้จัดทำขึ้นจากประสบการณ์และระเบียบของสถานฑูต
     ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่สถานการณ์และคุณสมบัติของลูกค้า
     ในแต่ละราย
 ** ในการพิจารณาอนุมัติวีซ่า จะอยู่ในดุลพินิจของทางสถานฑูต ซึ่งในบางกรณี
      อาจจะมีการ เรียกเอกสารเพิ่มเติมจากที่ได้ระบุไว้ หรืออาจจะมีการเรียก
     สัมภาษณ์ในบางครั้ง ซึ่งอาจจะ ทำให้เกิดความไม่สะดวกแก่ท่านได้
      ทางบริษัท ฯ จึงต้องขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้
 ** ในการยื่นขอวีซ่า กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ครบตามที่ระบุ พร้อมส่งมอบ
     เอกสารประกอบการยื่นวีซา ไม่น้อย กว่า4 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง
     (ในกรณีที่เอกสารของท่านไม่สมบูรณ์ ทางสถานฑูต  อาจจะปฎิเสธวีซ่าของ
      ท่านได้)
 ** สำหรับเอกสารที่ยื่นเข้าสถานฑูต ต้องใช้เอกสารเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
      ซึ่งจะต้องแปลเอกสาร ก่อนยื่นเข้าสถานฑูตยกเว้นสำเนาทะเบียนบ้านและ
      สำเนาบัตรประชาชนไม่ต้องแปล (เอกสารที่ต้องแปลได้แก่หนังสือรับรอง
      บริษัทสำเนาใบทะเบียนการค้kสำเนาสูติบัตร สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล
      สำเนาใบทะเบียน สมรส หรือ ใบหย่า สำเนาใบมรณะบัตร หนังสือยินยอม
      จากทางอำเภอ หรือ เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ) ซึ่งค่าใช้จ่ายในการแปลเอกสาร
      ทุกฉบับไม่ได้รวมในอัตรา ค่าบริการทัวร์ ประมาณแผ่นละ 300 บาท
 ออสเตรเลียประกอบด้วยรัฐใหญ่ 6 รัฐ และเขตปกครองตนเอง 2 มณฑล
Australian Capital Territory มณฑลนครหลวงของออสเตรเลีย แคนเบอร์ร่า
(Canberra) คือเมืองหลวงของประเทศ เป็นศูนย์กลางการปกครอง ลักษณะตัวเมือง
ทันสมัย เพราะมีการวางผังเมืองอย่างดีเยี่ยม เป็นที่ตั้งขององค์กรระดับชาติ และหน่วย
งานสถานทูตของประเทศต่างๆ รวมทั้งสถานทูตไทย

New South Wales นิวเซาท์เวลส์ เมืองหลวงชื่อซิดนีย์ (Sydney) รัฐนี้มี
ประชากรหนาแน่นมากที่สุด มีชาวไทยและนักศึกษาไทยมากที่สุดด้วย เป็นรัฐ
ที่พัฒนาทางอุตสาหกรรมมากที่สุดในออสเตรเลีย ซิดนีย์เป็นเมืองที่คึกคัก มีสีสัน
มีชีวิตชีวา สัญลักษณ์ของเมืองคือโอเปร่าเฮาส์ (Opera House) และสะพานข้าม
อ่าวซิดนีย์ (Sydney Harbour Bridge)
Northern Territory มณฑลตอนเหนือ มีเมืองดาร์วิน (Darwin) เป็น
เมืองหลวง เนื้อที่ส่วนใหญ่จะแห้งแล้ง มีพื้นที่เกษตรกรรมเพียง 10% ภูมิอากาศ
ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก แต่เป็นแหล่งผลิตเหล้าไวน์ชั้นเยี่ยม
Queensland ควีนส์แลนด์ เป็นรัฐใหญ่อันดับสอง มีเมืองหลวงคือบริสเบน
(Brisbane) รัฐนี้ได้ชื่อว่าเป็นรัฐที่มีแสงแดด (Sunshine State) มีแนวประการัง
ที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกชื่อ Great Barrier Reefs
มีป่าดงดิบและป่าชื้นเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์
South Australia เซาท์ออสเตรเลีย เมืองหลวงชื่อ อะดิเลด (Adelaide)
ครั้งหนึ่งเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองแห่งเทศกาล" เนื้อที่ส่วนใหญ่แห้งแล้งมีพื้นที่
เกษตรกรรมเพียง 10% ภูมิอากาศไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก แต่เป็นแหล่ง
ผลิตเหล้าไวน์ชั้นเยี่ยม
Tasmania ทัสมาเนีย เมืองหลวงคือโฮบาร์ต (Hobart) ทัสมาเนียเป็นรัฐ
ที่เล็กที่สุด ลักษณะเป็นเกาะ ตั้งอยู่ห่างจากรัฐวิคตอเรียแผ่นดินใหญ่ประมาณ
240 กิโลเมตร มีอากาศหนาวที่สุด สภาพภูมิประเทศเป็นหุบเขาและที่ราบสูง
 ทิวทัศน์สวยงามยิ่ง จนได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของ
ออสเตรเลีย เป็นเมืองสงบ ค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนถูก เป็นที่ตั้งของ

มหาวิทยาลัยทัสมาเนีย (University of Tasmania)
Western Australia เวสเทอร์นออสเตรเลีย เมืองหลวงคือเพิร์ธ (Perth)
เป็นรัฐที่มีพื้นที่มากที่สุด อุดมสมบูรณ์ด้วยเหมืองแร่ และแร่ทองคำ มีชายฝั่ง
ทะเลยาวถึง 12,500 กิโลเมตร อาชีพสำคัญของประชากรคือการทำประมง
และทำเหมืองแร่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตเพชรได้มากเป็นอันดับสามของโลก
เพิร์ธเป็นเมืองที่สะอาด สวยงามและอยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด ใช้เวลา
เดินทางแค่ 6 ชั่วโมงครึ่ง มีเวลาต่างกับประเทศไทยเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
Victoria วิคตอเรีย รัฐนี้ได้ชื่อว่า Garden State เนื่องจากมีสวนสาธารณะ
มากกว่ารัฐอื่น เมืองหลวงคือเมลเบิร์น เป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองและ
เป็นเมืองที่นักศึกษาไทยไปศึกษามากเป็นอันดับสอง
การปกครอง
    รัฐบาลสหพันธรัฐรับผิดชอบกิจการระดับประเทศ เช่นการป้องกันประเทศ
การต่างประเทศ ส่วนรัฐบาลในระดับรัฐ ดูแลด้านการศึกษาการคมนาคม ขนส่ง
การบริหารสาธารณสุข การเกษตร การรักษากฎหมายภายในรัฐของตน และ
รัฐบาลระดับท้องถิ่น ดูแลสาธารณูปโภค การระบายน้ำ การขจัดของเสีย สวน
สาธารณะ ห้องสมุดประชาชน

ไฟฟ้า
    ใช้กระแสไฟฟ้า 240-250 V, AC 50 Hz เหมือนประเทศไทย แต่ใช้ปลั๊ก
แบบ 3 ขาถ้าจะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปจากเมืองไทย เช่น วิทยุ ต้องใช้ Adapter
ซึ่งหาซื้อได้ทั้งในประเทศไทยและออสเตรเลีย

ประปา - น้ำประปาสะอาด สามารถใช้สำหรับดื่มได้

ศาสนา  ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ แต่มีศาสนาอื่นๆ
เช่น พุทธ อิสลาม และยิว  ด้วยเช่นกัน เนื่องด้วยออสเตรเลียให้เสรีภาพ
ในการนับถือศาสนา

ประวัติศาสตร์
ในทวีปออสเตรเลียพบว่ามีประชากรเข้ามาอาศัยเมื่อประมาณ40,000-
50,000 ปี ที่แล้วโดยอพยพไปจากทวีปเอเชียและหมู่เกาะใกล้เคียง ภายหลัง
จึงมีการอพยพคนจากทางยุโรบโดยเฉพาะจากประเทศอังกฤษเข้าไปอยู่อาศัย
ภูมิศาสตร์
ออสเตรเลียมีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปร้อยละ 65 เป็นที่ราบสูง
และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งและ
ทุรกันดาร และมีขนาดทะเลทรายรวมกันใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรอง
จากทะเลทรายสะฮาราในทวีปแอฟริกา ชาวออสเตรเลียเรียกดินแดนที่
แห้งแล้งและทุรกันดารนี้ว่า "เอาต์แบ็ก" ประชากรออสเตรเลียส่วนใหญ่
อาศัยอยู่ในบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกหลังเทือกเขาเกรตดิไวดิง
ซึ่งแบ่งแยกชายฝั่งตะวันออกกับเขตเอาต์แบ็ก มีแม่น้ำสายสำคัญ ๆ อยู่
ทางภูมิภาคตะวันออก ได้แก่ แม่น้ำดาร์ลิง แม่น้ำเมอร์เรย์ ส่วนตอนกลาง
ของประเทศที่เรียกว่า "เขตเซนทรัลโลว์แลนด์" เป็นเขตแห้งแล้งที่สุด
แม่น้ำลำธารต่าง ๆ อาจแห้งสนิทเป็นเวลาหลายปี
 
    เที่ยวออสเตรเลีย
  ออสเตรเลียเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาล และมีภูมิประเทศที่หลาก
หลายเส้นทางท่องเที่ยวที่สำคัญมีหลายเส้นทาง เช่น เริ่มต้นที่รัฐนิว
เซาท์เวลส์ จากซิดนีย์ไปโกลด์โคสต์ บริศเบน จากซิดนีย์ไปเมลเบิร์น
และแคนเบอร์รา รัฐออสเตรเลียตะวันตก เริ่มที่เมืองเพิร์ธ และปิดท้าย
ที่เมืองโฮบาร์ของรัฐแทสเมเนีย

รัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales)
      รัฐนิวเซาท์เวลส์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีป
ออสเตรเลียติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก มีอาณาเขตติดต่อกับ
รัฐควีนสแลนด์ทางทิศเหนือติดต่อกับรัฐวิกตอเรียทางทิศใต้
เป็นรัฐใหญ่อันดับ 4 ของออสเตรเลียมีประชากรประมาณ 6 ล้านคน
ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใน 3 เมืองใหญ่ของรัฐคือ ซิดนีย์ นิวคาสเซิล
และวูลองกอง ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของรัฐอยู่ในซิดนีย์
       รัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นรัฐที่ชนผิวขาวมาตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นแห่งแรกใน
ออสเตรเลียรัฐนี้จึงเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์ของ
ออสเตรเลีย เมื่อมีการพบทองคำในออสเตรเลีย ทุกคนจากทุกสารทิศหลั่งไหล
มาที่รัฐนี้ ทำให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ หลังจากยุคตื่นทองก็มาถึงยุคทำ
เหมืองถ่านหิน รัฐนิวเซาท์เวลส์กลายเป็น
รัฐที่ร่ำรวยที่สุดในออสเตรเลีย นอกเหนือ
จากผลผลิตทางการเกษตรที่ได้ผลมากในแถบที่ราบทางตะวันตกของเทือกเขา
ใหญ่The Great Dividing Range ที่สามารถผลิตข้าวสาลีและผลไม้ต่าง ๆ
มากกว่า 80% ของผลผลิตทางการเกษตรโดยรวมของประเทศ
      รัฐนิวเซาท์เวลส์มีภูมิประเทศที่หลากหลาย เมืองที่เจริญของรัฐ เช่น ซิดนีย์
นิวคาสเซิล จะตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลที่ยาวเหยียด ประกอบด้วยหาดทรายสีขาวโค้ง
รูปพระจันทร์เสี้ยว พื้นที่ทางตอนในลึกเข้าไปในแผ่นดินเป็นทะเลทรายระหว่าง
พื้นที่ชายฝั่งทะเลกับทะเลทรายคั่นด้วยเทือกเขาใหญ่ที่ยังไม่มีการบุกเบิก
      ดอกไม้ประจำรัฐนิวเซาท์เวลส์ คือ ดอกวอราทาห์ สัตว์พื้นเมือง
ประจำรัฐ คือ ตุ่นปากเป็ด

ซิดนีย์ (Sydney)
      
ซิดนีย์เป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเซาเวลส์ เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดทันสมัย
และใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ซิดนีย์มีประชาการหนาแน่นมากที่สุดในออสเตรเลีย
มีจำนวนเกือบ 4 ล้านคน แม้จะเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย แต่ซิดนีย์ก็
เป็นเมืองที่ทันสมัยที่สุดเพราะเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้า การธนาคาร แฟชั่น
       ซิดนีย์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดเมืองบหนึ่งของโลก โดยเฉพาะ
อ่าวซิดนีย์ หรือ Sydney Harbour เป็นอ่าวที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่
สุดแห่งหนึ่งของโลก ซิดนีย์ฮาร์เบอร์สวยงามด้วยสิ่งก่อสร้างบที่เป็นสถา
ปัตยกรรมชิ้นเอกของโลก คือโรงอุปรากรวิดนีย์ หรือซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์
ที่มีหลังคาสร้างเป็นรูปเปลือกหอย ซิดนีย์ฮาร์เบอร์และโอเปร่าเฮาส์อยู่
บริเวณที่มีชื่อชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Port Jackson ซึ่งอยู่ลึกเข้า
มาจากมหาสมุทร 20 กิโลเมตร แบ่งซิดนีย์ออกเป็นโมงลอด ใต้ทะเลเชื่อม
ซิดนีย์ทั้งสองฝั่งเข้าไว้ด้วยกัน แม่น้ำพารามัตตา แม่น้ำสายสำคัญของ
รัฐนิวเซาท์เวลส์ไหลลงสู่ทะเลที่อ่าวนี้

                           สถานที่ท่องเที่ยวในซิดนีย์


 
ย่านเดอะร็อคส์ (The Rocks)
จุดแรกในซิดนีย์ที่ควรไปเยือนคือ ย่านเดอะร็อคส์ ซึ่งเป็นย่านชุมชน
แห่งแรกที่ชาวยุโรปมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในออสเตรเลีย เป็นย่านเมืองเก่าแก่
ที่สุด จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย บริเวณเดอะร็อคส์ยังมีคุก
ที่ใคมขังนักโทษในสมัยนั้นกิจกรรมที่นาสนใจที่เดอะร็อคส์คือการเที่ยวชม
จุดสำคัญในประวัติศาสตร์ 31แห่งในย่านเดอะร็อคส์นี้ ซึ่งแนะนำโดย
The Rocks self -Guide Tour เป็นการท่องเที่ยวแบบตามรอย
ประวัติศาสตร์
โรงอุปรากรซิดนีย์ (Sydney Opera House)
ตั้งอยู่ที่ Bennelong Point ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แปลกตา โรงงานอุปร่ากร
ซิดนีย์หรือซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ สร้างด้วยเงินจากการขายล็อตเตอรี่มูลค่ามากกว่า
100 ล้านเหรียญ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้อ่าวซิดนีย์เป็นอ่าวที่สวยที่สุดในโลก
ปัจจุบันโอเปร่าเฮาส์เป็นแลนด์มาร์กของออสเตรเลีย
      จุดชมวิวที่สวยที่สุด และเหมาะสำหรับการถ่ายภาพซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ คือถ่าย
รูปจากเรือที่พาชมอ่าว แต่ถ้าต้องการจะไปทัวร์ภายในอาการ ก็สามารถทำได้ใน
วันที่ไม่มีการแสดงโดยมีทัวร์นำชมสถานที่ทุกครึ่งชั่วโมงระหว่างเวลา 9.00-16.00 น.
พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (Museum of Contemporary Art)  
ตั้งอยู่บนถนนจอร์จ ภายในมีงานศิลปะร่วมสมัยที่น่าสนใจแสดงอยู่
จำนวนมาก ทั้งผลงานของศิลปินออสเตรเลียและศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก
สวนพฤกษศาสตร์ (Royal Botanic Gardens)
สวนสวยขนาดใหญ่นี้ อยู่ติดกับโอเปร่าเฮาส์ เลาะไปตามริมอ่าว
ซิดนีย์เป็นสวนที่มีพันธ์ไม้นานาชนิดในพื้นที่กว่า 30 เฮกตาร์ เป็นสวน
สาธารณะที่ร่มรื่นชาวซิดนีย์นิยมไปเดินเล่นหรือไปอกกำลังกายกัน
โบตานิกการ์เด้นนี้เป็นสวนเก่าแก่มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1816
พิพิธภัณฑ์ศิลปะนิวเซาท์เวลส์ (Art Gallery of New South Wales)
อยู่ใหล้กับสวนพฤกษศาสตร์ เป็นที่แสดงงานศิลปะเอเซียศิลป
ะอะบอริจิน และศิลปะร่วมสมัย
ซิตี้เซ็นเตอร์ (City Centre)
ใจกลางเมืองซิดนีย์ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้า แหล่งช้อปปิ้งอยู่
ทางทิศใต้ของเซอร์คูลาร์คีย์ ไปจนจรดสถานีรถไฟ Central station
ที่มี่นี่ก็จะเต็มไปด้วยย่านการค้าที่สำคัญคือMartin Place ซึ่งจัดให้
เป็นถนนคนเดินมีร้านค้าขายของทันสมัยเรียงรายอยู่สองฝั่งถนน มี
ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เดวิด โจนส์ 
ดาร์ลิงฮาร์เบอร์ (Darling Harbour)
อยู่ทางตะวันตกของอ่าวซิดนีย์ ย่านนี้เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่ง
ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของซิดนีย์ เพราะเป็นที่ตั้งของ
SydneyExhibition Centre กับ sydneyaquarium แลพิพิธภัณฑ์เรือ
ไชน่าทาวน์ (China Town)
ถิ่นนี้เป็นที่รวมอาหารจีน และอาหารเอเชียนานาชนิด ซึ่งสมารถหา
กินได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นขนมจีบ ซาลาเปาหมูแดง เป็ดย่าง ไปจน
ถึงอาหารภัตตาคารระดับอาหารฮ่องเต้ นอกจากนี้ยังมีตลาดสดขาย
ผักผลไม้และร้านขายของที่ระลึก ร้านสินค้าปลอดภาษี สินค้าที่ทำ
ในฮ่องกงหรือจีนในราคาย่อมเยามีมากมาย
ตลาดปลา (Sydney Fish Market)
เป็นสวรรคค์ของคนชอบอาหารทะเล ตลาดสดของวิดนีย์เป็นตลาด
สดขายอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย
ย่านคิงส์ครอส (Kings Cross)
เป็นย่าน "ไฟแดง" ของซิดนีย์ เปรียบได้กับย่าน พัฒน์พงศ์ ของ
กรุงเทพฯ แถวนี้เป็นที่ตั้งของโรงแรมที่พักหลายแบบตั้งแต่โรงแรม
ชั้นหนึ่งไปจนถึงห้องพักราคาประหยัด นอกจากแหล่งบันเทิงยามราตรี
แล้ว คิงส์ครอสยังมีภัตตาคารและร้านอาหารมากมาย
ฮาร์เบอร์บริดจ์ (Harbour Bridge)
เป็นสะพานโครงเหล็กที่มีช่วงกลางระหว่าตอม่อ 2 ข้างยาวที่สุดใน
โลก เมื่ออยู่บนสะพานจะมองเห็นโอเปร่าเฮาส์ และวิวเมืองซิดนีย์
ได้สวยงามที่สุด ดังนั้นจึงมีผู้คิดจัดทัวร์พิเศษขึ้นสำหรับผู้ที่รักการ
ผจญภัย โดยพานักท่องเที่ยวพร้อมอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุไต่ขึ้น
ไปบนโค้งสะพานราคาค่าทัวร์ไต่สะพานคนละ 155 เหรียญ
วันเสาร์-อาทิตย์แพงกว่าธรรมดา คือ 175 เหรียญ  และมีการไต่ตอน
กลางคืนราคา 225 เหรียญ โดยราคานี้จะรวมภาพถ่ายให้ด้วย เพราะ
ไม่อนุญาติให้นำกล้องหรือสัมภาระอื่นใดขึ้นไปเด็กอายุ 12-16 ปี
ต้องมีผู้ใหญ่ไปด้วยหากสนใจต้องจ่ายล่วงหน้าเพราะกำลังเป็นที่นิยมมาก
ท่องเที่ยวนอกซิดนีย์
   
จากตัวเมืองซิดนีย์ออกไป มีนักท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่สามารถ
เดินทางไป กลับวันเดียวได้ เช่น บอนไดบีซ แมนลีบีซ ซึ่งเป็นชาย
หาดที่พักตากอากาศอันมีชื่อเสียงของซิดนีย์
     หากไม่ขับรถเที่ยวเอง หรือเดินทางโดยบริการรถเมล์/รถไฟก็จะมี
ทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับบริการนักท่องเที่ยงตลอดเวลา เช่น ไปเที่ยว
บลูเมเทนส์ หรือไปชิมไวน์ที่ฮันเตอร์วัลเลอร์
แมนลีย์บีซ (Manly Beach)
เป็นชายหาดปากอ่าวซิดนีย์ ช่วงที่เปิดสู่มหาสมุทรเป็นสถานที่พักผ่อน
หย่อนใจยอดนิยมของชาวซิดนีย์

บอนไดบีช (Bondi Beach)
เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของซิดนีย์ อยู่ทางตอนใต้ของตัวเมืองใช้
เวลาขับรถราว30 นาที หนุ่มสาวนิยมมาเล่นกระดานโต้คลื่นกันมีที่พัก
ราคาถูก
เทือกเขาสีน้ำเงิน (Blue Mountains)
บลูเมาเทนส์เป็นเขตวนอุทยานแห่งชาติที่ปกคลุมไปด้วยกัม ต้นไม้ตระกูล
ยูคาลิปตัส ซึ่งมีใบสีเขียวเข้มไอระเหยของน้ำมันที่ออกจากใบกัมปกคลุม
ไปทั่วหุบเขา เมื่อมองดูจากไกล ๆ จะเห็นทิวเขาที่ปกคลุมด้วยต้นกัมกลาย
เป็นสีน้ำเงิน
ชิมไวน์ที่ฮันเตอร์วัลเลอร์ (Hunter Valley)
เป็นแหล่งปลูกองุ่นผลิตไวน์อันลือชื่อของออสเตรเลียบริษัทผู้ผลิตไวน์บาง
รายมีอายุเก่าแก่ 100 ปี ในเขตที่เรียกว่าLower Hunter นักท่องเที่ยวที่เข้า

ไปชมการผลิตไวน์จะได้ชิมไวน์ด้วย นอกจากจะมีไวน์จำหน่ายแล้วบางแห่ง
จะเป็นที่พักแรม ที่ให้บริการแบบรีสอร์ทกลางไร่องุ่น
สนามกีฬาโอลิมปิก (Homebush Bay/Sydney Olympic Stadium)
ในปี ค.ศ. 2000 ซิดนีย์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสนามกีฬา
ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬา ซึ่งสร้างอยู่ในบริเวณโฮมบุชเบย์ซึ่งอยู่ห่างจากตัว
เมืองซิดนีย์ออกไปราวครึ่งชั่วโมง กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่ง
หนึ่งของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนรัฐนิวเซาท์เวลส์

กรุงแคนเบอร์ร่า (Canberra)
  
แคนเบอร์ร่าเป็นเมืองหลวงของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่เรียกว่า
เขตนครหลวง แคนเบอร์ร่าเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น Man-made City
เพราะเป็นเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ จากการออกแบบวางผังเมืองอย่างฉลาด
ทำให้แคนเบอร์ราเป็นเมืองที่สวยงามและมีระเบียบ ประชากรราว
3000,000 คน
    แคนเบอร์ราอยู่ห่างซิดนีย์ 300 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเมล์เบิร์น 650 กิโลเมตร
แคนเบอร์ราเป็นเมืองที่มีผังเมืองสวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวในแคนเบอร์รา
ทะเลสาบกริฟฟิน (Lake Burley Griffin)
    ทะเลสาบกริฟฟิน ตั้งชื่อตามสถาปนิกผูออกแบบเมือง เป็นทะเสสาบขุดกว้าง
ใหญ่อยู่ใจกลางเมือง ตรงกลางมีน้ำพุชื่อว่า Captain Cook Memorial  Water
Jet ซึ่งพุ่งได้สูงถึง140 เมตร มองเห็นได้จากทุกมุมเมือง น้ำพุนี้จะเปิดในเวลา
10.00-12.00 น. และ14.00-16.00 น. ในฤดูร้อนจะเปิดในช่วงค่ำ
19.00-21.00 น. ด้วย
อาคารรัฐสภา (Parliament House)
    อยู่ทางด้านใต้ของทะเลสาบบนเนินเขาชื่อ Capital Hill  เป็นอาคารที่ออก
แบบก่อสร้างอย่างทันสมัย มีจุดเด่นอยู่ที่เสาธงซึ่งมีขนาดใหญ่สูงเด่นเป็นสง่า
ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 8 ปี สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1988
หอศิลป์แห่งชาติ (The Nation Gallery of Australia)
    อยู่ข้างอาคารศาลสูง เป็นที่รวบรวมงานศิลปะของออสเตรเลียตั้งแต่ผลงาน
ศิลปะของออสเตรเลียตั้งแต่ผลงานศิลปะดั้งเดิมของชาวอะบอริจินิสจนถึงผล
งานสมัยใหม่ของศตวรรษที่ 20 ดดยศิลปินชาวออสซี่คนสำคัญ ๆ เช่น
ฮาร์เธอร์ บอยด์  และซดนีย์ โนแลน
อนุสรณ์สถานทหารแห่งออสเตรเลีย (Australian War Memorial)
   ตั้งอยู่บนถนน Anzac Parade เป็นอนุสรณ์สถานสำหรับรำลึกถึงทหารผู้รับ
ใช้ชาติมนสงครามต่าง ๆ ที่ออสเตรเลียได้มีส่วนร่วมด้วย มีอาคารพิพิธภัณฑ์
อาวุธ หอแสดงภาพเกี่ยวกับสงคราม ห้องจำลองสมรภูมิในสมัยสงครามโลก
ครั้งที่ 2 ห้องฉายภาพยนต์ ฯลฯ
โรงกษาปณ์ (The Royal Australian Mint)
   เป็นที่ผลิตเหรียญกษาปณ์และเงินเหรียญที่ใช้ในออสเตรเลีย เปิดให้เข้า
ชมการผลิตเหรียญและมีนิทรรศการเหรียญหายากให้ชมฟรี
หอสมุดแห่งชาติ (The National Library)
    หอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียแห่งนี้ มีหนังสือภาษาต่าง ๆ นอกจาก
ภาษาอังกฤษมากมาย ที่น่าสนใจคือมีมุมหนังสือภาษาไทยด้วยห้องแสดง
นิทรรศการมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ชมทั้งปี กับทั้งมีร้านค้าจำหน่ายหนังสือ,
และของที่ระลึก
หอเทลสตรา (Telstra Tower)
   
ตั้งอยู่บน Black Mountian หอมีความสูง 195 กิโลเมตร บนหอเป็นที่
ชมวิวเมืองแคนเบอร์รา เปิดให้ขึ้นชมทิวทัศน์ระหว่างเวลา 9.00-22.00 น.
มีภัตตาคารบริการอาหารและเคื่งดื่มที่ชั้นบนสุดของหอ ต้องเสียค่าใช้จ่าย
เข้าชม 3.30 เหรีญญ ติดต่อสอบถามได้จาก Black Mountian Drive
ช้อปปิ้งในแคนเบอร์รา
   ร้านค้าและศูนย์การค้าในคแนเบอร์รา  จะอยู่ใจกลางเมือง คือสถานที่
รวมห้างสรรพสินค้า ร้านของดีไซเนอรื และร้านขายของสารพัดชนิด
แหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจก็คือ ศูนย์การค้า Munuka ซึ่งอยู่ใกล้ย่านสถานฑูต
และศูนย์การค้าในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ มีสินค้าประเภทนี้จำหน่ายด้วย
***รัฐวิกตอเรีย (Victoria)***
    
รัฐวิกตอเรียเป็นรัฐที่เล็กที่สุดของทวีปออสเตรเลีย (ไม่นับรัฐแทสเมเนีย
ซึ่งเป็นเกาะ) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีป เป็นรัฐที่มีขนาดเล็กที่สุด
แต่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุด รัฐวิกตอเรียมีประชากรทั้งรัฐเกือบ 5 ล้านคน
เมืองหลวงชื่อเมลเบิร์น ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยาร์รา วิกตอเรีย เป็นรัฐแรกที่มีธง
ประจำรัฐ  รัฐวิกตอเรียได้ชื่อว่าเป็นรัฐที่เจริญมากที่สุดกว่าทุกรัฐของออสเตรเลีย
และมีสวนสาธารณะมากที่สุดจนได้รับขนานนามว่า Garden State
***เมลเบิร์น (Melbourne)
    เมลเบิร์นเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดใน
ออสเตรเลีย ด้วยบรรยากาศที่เหมือนบ้านเมืองในยุโรป มีสวนสาธารณะอยู่มาก
มายทั่วเมือง ถนนแทบทุกสายมีต้นไม้ขึ้นครึ้มทั้งสองฝั่งถนนเมลเบิร์นเป็น
ศูนย์กลางของกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมต่ง ๆ และเคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน
กีฬาระดับโลกหลายครั้ง
สถานที่ท่องเที่ยวในเมลเบิร์น
 
ซิตี้เซ็นเตอร์ (City Centre)
     จุดที่เป็นศูนย์กลางเมือง
ของเมลเบิร์นที่ได้ชื่อว่า  " golden mile" 
คือช่วงถนนCollin กับถนน Bourke ที่ถูกตัดถนนด้วยถนน Swanston กับถนน
Elizabateย่านนี้เป็นย่านช้อปปิ้งของชาวเมลเบิร์น เป็นช่วงที่ห้ามรถส่วนบุคคล
เข้ามามีเฉพาะรถรางเข้ามาได เพื่อให้เป็นถนนคนเดินเท่านั้น

พิพิธภัณฑ์เมลเบิร์น (Melbourne Museum)
      เป็นอาคารของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย เป็นแล่งความรู้และแสดง
สิ่งที่น่าสนใจมากมายด้านเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุด มีเรื่องราวของชนพื้นเมือง
ประวัติศาสตร์ ประดิษฐกรรมต่าง ๆ รถยนต์ และเครื่องบินลำแรกที่ทำใน
ออสเตรเลีย ที่น่าสนใจคือร่างสตัฟฟ์ของม้าแข่งฝีเท้าระดับหนึ่งของโลก ชื่อ
"ฟ้าแลบ" ซึ่งไปพบจุดจบอย่างมีปริศนาที่อเมริกา นอกจากนั้นยังมีโรงภาพยนต์

IMAX และการจำลองป่ามาให้ผู้ชมได้ศึกษาชีวิตธรรมชาติด้วย

บ้านกัปตันคุก (Captain Cook' s Cottage)
      ค้นพบออสเตรเลียเดิมอยู่ที่เมือง Yorkshire ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย
ได้ขอซื้อมาเพื่อนำมาตั้งในสวนฟิตชรอย ตัวบ้านเป็นบ้านเก่าที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.
1755 การขนย้ายทำโดยรื้อออกเป็นส่วน ๆ ส่งลงเรือมาประกอบใหม่ในสวน
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานฉลองวันครบรอบร้อยปีของเมืองเมลเบิร์นเมื่อปี
ค.ศ.1934 ในบ้านจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับกัปตันคุก โยตกแต่งให้มีบรรยากาศ
สมัยที่กัปตันคุกยังมีชีวิตอยู่
ช้อปปิ้งในเมลเบิร์น
      เมลเบิร์นเป็นเมืองที่นักช้อปปิ้งจะจับจ่ายซื้อของได้อย่างเพลิดเพลินไม่
แพ้ซิดนีย์โดยเฉพาะกลางเมือง แหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญจะอยู่บนถนนเบิร์ก
และถนนคอลลินส์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ Myer และเดวิด โจนส์ ตั้งอยู่ที่
Bourke Street Mall ส่วนห้างไดมารูนั้นตั้งอยู่ใน Melbourne Central
 หากสนใจสินค้าประเภทแบรนด์เนมทันสมัย ต้องไปที่  Paris End
สุดถนนคอลลินส์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ Myer และเดวิด โจนส์ ตั้งอยู่ที่
Bourke Street Mallส่วนห้างไดมารูนั้นตั้งอยู่ใน Melbourne Central

**เพิร์ธ (Perth)**
    เป็นเมืองหลวงของรัฐ เป็นเมืองทันสมัยตั้งอยู่ริมแม่น้ำสวอน กล่าวกันว่า
เพิร์ธเป็นเมืองที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างไกลจากเมืองอื่น ๆ มากที่สุดในโลก
เพิร์ธมีประชากรราว 1 ล้าน 3 แสนคน ปัจจุบันเมืองเพิร์ทเป็นเมืองที่ทันสมัย
เมืองหนึ่งอของออสเตรเลีย ย่านการค้าใจกลางเมืองมีขนาดใหญ่นัก
อยู่ที่เฮย์สตรีท สภาพอากาศโดยทั่วไปจะอบอุ่นสบาย หน้าหนาวไม่หนาว
และแสงแดดจัดตลอดทั้งปี

สถานที่ท่องเที่ยวในเพิร์ท

คิงส์ปาร์ก (Kings Park)
   เป็นสวนรุกขชาติที่อยู่ติดเมือง ทำเลที่ตั้งสวนนี้อยู่บนเชิงเขาที่สูงกว่า
ตัวเมืองจึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองเพิร์ธที่ดีทีสุด

ลอนดอนคอร์ต (London Court)
    เป็นกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมทิวดอร์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่18
ตั้งอยู่ระหว่างเฮย์สตรีทจอร์จเทอเรซ ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้ง
ลอนดอนคอร์ตของนักท่องเที่ยวที่พากันมาถ่ายรูป 

สวนสัตว์เพิร์ธ (Perth Zoo)
    
อยู่ทางฝั่งใต้ของเพิร์ธ ตรงข้ามกับตัวเมือง ตรงข้ามแม่น้ำสวอนมา
ทางท่าเรือที่ถนนบาร์เร็กสวนสัตว์นี้ได้ชื่อว่าเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดของ
ออสเตรเลียมีสัตว์ที่น่าสนใจให้ชมมากมายในบรรยากาศสวนที่ร่มรื่น

โรงกษาปณ์ของเมืองเพิร์ธ (Perth Mint)
    เปิดให้เข้าชมวิธีการทำทองให้บริสุทธิ์ และการหลอมทองคำแท่ง
การผลิตเหรียญเงิน การทำเหรียญตราต่าง ๆ

หาดทรายชายทะเล
     เพิร์ธเป็นเมืองชายหาดสวยงาม มีชื่อเสียงว่าเหมาะกับการเล่นเซิร์ฟ
และพักผ่อน เฉพาะในเขตเมืองเพิร์ธมีหาดทรายมากถึง 19 แห่ง
ชายหาดที่สวยงามและสงบพบอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสวอนหลายหาด ที่มีชื่อเสียง
เป็นที่รู้จักกันดี คือ หาดที่ Peppermint Grove Crawley และ Como
ส่วนหาดที่อยู่ริมมหาสมุทรอินเดีย คือ Cottesloe ,Port และ Scarborough
นอกจากนี้ยังมีหาดที่เป็น nude beach หนึ่งแห่งคือ หาด Swanbourne








                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                 
แหล่งที่มา : http://www.choktaweetour.com/index_info.php?ID=1









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น